ส่งภาพชิ้นที่ต้องการ สั่งซื้อที่ LINE @swanic ได้เลย🛒🤍
ฟอสซิลแอมโมไนต์ (Ammonite)
แอมโมไนต์ คือสัตว์ประเภท cephalopods ชนิดหนึ่ง สามารถพบได้หลายที่บนโลกรวมทั้งประเทศไทย เมื่อประมาณ 66 ล้านปีก่อน ดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลกและสภาพอากาศที่เย็นลงอาจทำให้แอมโมไนต์สูญพันธุ์ และเมื่อเวลาผ่านไปหลายพันปี แอมโมไนต์สองสายพันธุ์ ได้แก่ Placenticeras meeki และ P. intercalare ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นฟอสซิลที่มีสีสันสวยงามอย่างช้า ๆ เรียกว่า Ammolite ในสมัยก่อนชาวอเมริกันพื้นเมืองมักสวมใส่เพื่อนำโชคขณะล่าสัตว์
Ammolite เป็นอัญณีชนิดใหม่ในตลาดอัญมณีโลก (ตั้งแต่ช่วงปี 1960) โดยเป็นแร่อะราโกไนต์ที่อยู่ในเปลือกหอยแอมโมไนต์ที่กลายเป็นฟอสซิลเหลือบสีรุ้ง ซึ่งขุดได้ครั้งแรกในรัฐอัลเบอร์ตา ประเทศแคนาดา โดยพบได้เฉพาะในชั้นหิน Bearpaw ในยุคครีเทเชียสตอนปลาย (ประมาณ 70–75 ล้านปี) เท่านั้น
Ammolite มักถูกนำมาทำเป็นจี้ เข็มกลัด และต่างหู และบางครั้งก็ขายเป็นงานศิลปะ Ammolite ไม่ใช่หินแข็ง มีค่าความแข็งโดยเฉลี่ย 3.5 ตามโมห์สสเกล ซึ่งหมายความว่าสามารถโดนขีดข่วนได้ง่าย (หากไม่เคลือบ) ความร้อนและสารเคมี เช่น กรด น้ำหอม และสเปรย์ฉีดผม ก็อาจทำให้เกิดความเสียหายได้เช่นกัน วิธีทำความสะอาดที่อยากแนะนำ คือ ให้ใช้ผ้านุ่ม ๆ (หรืออาจชุบน้ำหมาด ๆ) ก็ถือว่าเพียงพอแล้วค่ะ
องค์ประกอบ: เปลือกฟอสซิลของแอมโมไนต์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ส่วนใหญ่เป็นแร่อะราโกไนต์ (CaCO₃) ร่วมกับซิลิกา แคลไซต์ ไพไรต์ และแร่ธาตุอื่น ๆ
ประเภท: อัญมณีอินทรีย์ (Organic Gems) จากฟอสซิล
ความแข็ง: 3.5 - 4.5 (จากโครงสร้างของอราโกไนต์)
ความถ่วงจำเพาะ: 2.60 - 2.85
สี: มีสีเหลือบแวววาว เช่น แดง เขียว น้ำเงิน ม่วง และทอง
ประกาย: แก้ว - มุก - เรซินยางสน
ความโปร่งแสง: ทึบแสง - กึ่งโปร่งแสง
แนวแตกเรียบ: ไม่มี แต่มีโครงสร้างที่เปราะ
การเกิด: แอมโมไลท์ก่อตัวในช่วงปลายยุคครีเตเชียส (ประมาณ 70 ล้านปีก่อน) โดยเปลือกของแอมโมไนต์จะถูกฝังในตะกอนทะเลและกลายเป็นฟอสซิล ในกระบวนการนี้ ชั้นของอะราโกไนต์จะคงสภาพไว้และก่อตัวเป็นชั้นแผ่นบางที่สะท้อนแสง เกิดเป็นสีเหลือบรุ้งขึ้นมา แหล่งกำเนิดหลัก ได้แก่ ประเทศแคนาดา (โดยเฉพาะบริเวณแม่น้ำ St. Marys และเมือง Lethbridge โดยร้อยละ 90 ของแอมโมไลท์คุณภาพอัญมณีมาจากที่นี่)
ประวัติและการค้นพบครั้งแรก แอมโมไลท์ถูกจัดเป็นอัญมณีอย่างเป็นทางการโดย สมาพันธ์อัญมณีศาสตร์สากล (CIBJO) ในปี 1981 โดยก่อนหน้านั้น ชนพื้นเมือง แบล็กฟุต (Blackfoot) เรียกแอมโมไลท์ว่า “Iniskim” ซึ่งหมายถึง “หินควาย” และใช้ในการประกอบพิธีกรรมเพื่อดึงดูดความอุดมสมบูรณ์และการรักษา ถึงแม้ว่าเปลือกแอมโมไนต์จะเป็นที่รู้จักมานานหลายร้อยปี แต่แอมโมไลท์ในฐานะอัญมณีเชิงพาณิชย์เพิ่งเริ่มมีการขุดและใช้จริงจังในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20
ความเชื่อส่วนบุคคล แอมโมไลท์ได้รับการยกย่องว่าเป็น หินแห่งการเปลี่ยนแปลงและพลังชีวิต (Chi) โดยเชื่อว่ามีพลังในการฟื้นฟูและส่งเสริมความมั่งคั่ง สามารถกระตุ้นและปรับสมดุลจักระทั้ง 7 โดยเฉพาะจักระฐานรากและจักระตาที่สาม ส่งเสริมความกระจ่างแจ้ง การเติบโตส่วนบุคคลและความสงบในใจ ดึงดูดความมั่งคั่ง ความสำเร็จ และสุขภาพที่ดี เสริมพลังฮวงจุ้ยภายในบ้านหรือที่ทำงานได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยในการขจัดพลังงานลบและสนับสนุนการ เยียวยาและฟื้นฟูอีกด้วย
หมายเหตุ: คุณสมบัติเหล่านี้เป็นความเชื่อในวงการคริสตัล ยังไม่มีการรับรองทางการแพทย์
วิธีทำความสะอาดและดูแล ใช้ผ้าแห้งนุ่ม ๆ เช็ดอย่างเบามือ หลีกเลี่ยงน้ำ ความชื้นสูง เครื่องอัลตราโซนิก ความร้อน และสารเคมีรุนแรง
การเก็บรักษา: แยกเก็บในกล่องบุนวมนุ่ม ๆ ไม่ให้สัมผัสกับหินที่แข็งกว่า
การชำระล้างพลังงาน: แนะนำให้ใช้แสงจันทร์ เสียง หรือควันสมุนไพร (ไม่ควรใช้น้ำ)
หมายเหตุ: แอมโมไลท์จำนวนมากผ่านกระบวนการเสริมความคงทน (Stabilization) ด้วยเรซินและวัสดุรองหลัง ควรดูแลเหมือนหินประกอบ (Composite Gem)
สรุป
แอมโมไลท์เป็นอัญมณีอินทรีย์ (Organic Gems) ที่เกิดจากเปลือกฟอสซิลของสัตว์ทะเลโบราณชื่อว่า แอมโมไนต์ (Ammonite) ที่มีชั้นแผ่นบาง ๆ ที่แสดงสีรุ้งหรือสีเหลือบ (iridescence) เช่น สีแดง เขียว เหลือง น้ำเงิน ม่วง โดยสีเหล่านี้เกิดจากปรากฏการณ์ทางแสงในชั้นของแร่อะราโกไนต์ (Aragonite) ที่เรียงตัวอย่างละเอียด แอมโมไลท์ถือเป็นอัญมณีหายากและพบได้น้อยค่ะ
References:
GIA - Ammolite: The Fashionable Fossil
GIA - Ammolite: An Organic Jewel
EARTH@HOME - Geologic Time Scale
*ข้อมูลอาจมีการอัพเดทเพิ่มเติมในอนาคต
ฟอสซิลแอมโมไนต์ ทั้งหมดของเรา
Natural Rainbow Ammonite Fossil
ฟอสซิลแอมโมไนต์เหลือบรุ้ง จากมาดากัสการ์ มีดีเทลลายใบเฟิร์นด้วย
No.1 (9.2*7.5cm, 232g) 990 บาท
แอมโมไนต์จากแคนาดา vs. มาดากัสการ์
ความเหมือน
กำเนิดจากทะเลโบราณ แอมโมไนต์ทั้งสองแหล่ง เป็นซากดึกดำบรรพ์ของสัตว์ทะเลกลุ่มมอลลัสก์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ซึ่งมีชีวิตอยู่ในมหายุคมีโซโซอิก (Mesozoic Era)
เปลือกทรงเกลียวห้องซ้อน มีลักษณะโครงสร้างเปลือกแบบเกลียวพร้อมห้องภายใน (chambered spiral shell) อันเป็นลักษณะเฉพาะของแอมโมไนต์
กระบวนการกลายเป็นแร่ แอมโมไนต์ทั้งสองแหล่งผ่านกระบวนการ mineralization โดยองค์ประกอบดั้งเดิมของเปลือกจะถูกแทนที่ด้วยแร่ เช่น แคลไซต์ ซิลิกา หรือแร่ชนิดอื่นในช่วงเวลา fossilization
คุณค่าในเชิงสะสม ซากฟอสซิลเหล่านี้ได้รับความนิยมในหมู่นักสะสมฟอสซิลและอัญมณี เนื่องจากความสวยงามตามธรรมชาติ อายุที่ยาวนาน และรูปแบบที่มีเอกลักษณ์
ความแตกต่าง
ชื่อเรียก
แคนาดา: แอมโมไลท์ (Ammolite) ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นอัญมณี
มาดากัสการ์: โดยทั่วไปไม่เรียกว่าแอมโมไลท์ ถึงแม้จะมีเหลือบสีในบางตัวอย่าง
อายุของฟอสซิล
แคนาดา: ช่วงปลายยุคครีเตเชียส ประมาณ 70 - 75 ล้านปี
มาดากัสการ์: ช่วงปลายยุคครีเตเชียส ประมาณ 65 - 100 ล้านปี
สีและลักษณะภายนอก
แคนาดา: สีรุ้งชัดเจน เช่น แดง เขียว น้ำเงิน ม่วง เปลือกบางและแวววาว
มาดากัสการ์: ส่วนใหญ่มักเป็นสีน้ำตาล เทา เหลืองนวล อาจมีเหลือบสีบ้างภายนอก หรือมีผลึกแร่ด้านในห้องเปลือก
รูปแบบสภาพการคงตัว
แคนาดา: เปลือกเดิมยังคงอยู่ในรูปของ Aragonite ที่มีชั้นสี
มาดากัสการ์: เปลือกมักถูกแทนที่ด้วยแคลไซต์หรือมีผลึกควอตซ์ในโพรงด้านใน
ความหายาก
แคนาดา: ค่อนข้างหายากมาก พบเฉพาะในพื้นที่จำกัด (Bearpaw Formation, Canada)
มาดากัสการ์: มีความอุดมสมบูรณ์มากกว่า พบได้หลายจุดในมาดากัสการ์
การใช้งานในด้านอัญมณี
แคนาดา: นิยมตัด เจียระไน และขัดเงาเป็นอัญมณีแอมโมไลท์
มาดากัสการ์: มักขายเป็นฟอสซิลทั้งตัว ขัดเงาหรือผ่าครึ่งเพื่อแสดงโครงสร้างภายในห้องเปลือก
สถานะทางกฎหมาย
แคนาดา: แอมโมไลท์ถือเป็นอัญมณีที่ได้รับการรับรองในประเทศแคนาดา และมีการควบคุมการทำเหมือง
มาดากัสการ์: ฟอสซิลจากมาดากัสการ์ส่วนใหญ่ถูกขุดโดยชุมชนท้องถิ่น และพบในตลาดการค้าอย่างแพร่หลาย