ส่งภาพชิ้นที่ต้องการ สั่งซื้อที่ LINE @swanic ได้เลย🛒🤍
หยก (Jade)
หยก ขึ้นชื่อว่าเป็นอัญมณีที่มีความเหนียวและมีความทนทานสูง แบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก ๆ ได้แก่ เจไดต์ (Jadeite) และเนฟไฟรต์ (Nephrite)
แม้ว่าทั้งสองชนิดจะถูกนำมาใช้ในงานศิลปะและเครื่องประดับมาเป็นเวลาหลายพันปี แต่เจไดต์เป็นชนิดที่หายากกว่าและมีมูลค่าสูงกว่า โดยเฉพาะ "Imperial Jade" ซึ่งเป็นหยกสีเขียวมรกตสดใส ในขณะที่เนฟไฟรต์มักพบในเฉดสี เขียว ขาว น้ำตาล และดำ เท่านั้น
หยกเป็นที่ยอมรับในการนำมาใช้ในพิธีกรรม วัตถุมงคล และเครื่องประดับในหลายวัฒนธรรม เช่น จีน อเมริกากลาง (มายา และแอซเท็ก) และชาวเมารีในนิวซีแลนด์ ซึ่งมองว่าหยกเป็นสัญลักษณ์ของ ความบริสุทธิ์ สติปัญญาและการปกป้อง โดยแหล่งสำคัญของหยก ได้แก่ เมียนมา จีน และกัวเตมาลา หยกจึงเป็นหนึ่งในอัญมณีที่มีความสำคัญทั้งในแง่ประวัติศาสตร์และทางธรณีวิทยาด้วยเช่นกันค่ะ
สูตรเคมี:
เจไดต์: NaAlSi₂O₆
เนฟไฟรต์: Ca₂(Mg,Fe)₅Si₈O₂₂(OH)₂
กลุ่มแร่:
เจไดต์: Pyroxene
เนฟไฟรต์: Amphibole (variety of actinolite)
เจไดต์: 6.5 - 7
เนฟไฟรต์: 6 - 6.5
ความถ่วงจำเพาะ:
เจไดต์: 3.3 - 3.5
เนฟไฟรต์: 2.9 - 3.1
ระบบผลึก: Monoclinic
ประกาย: คล้ายขี้ผึ้งจนถึงแก้ว (Waxy to vitreous)
สี: เขียว, ขาว, ม่วงอ่อน, เหลือง, ดำ, แดง, น้ำตาล
ความโปร่งแสง: ทึบแสงถึงโปร่งแสง
แนวแตกเรียบ: ไม่มีถึงแตกยาก
การเกิด: หยกก่อตัวในหินแปร ภายใต้ความดันสูงและอุณหภูมิต่ำ มักพบในลำน้ำ พื้นที่ภูเขา และบริเวณที่มีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก
ประวัติและการค้นพบครั้งแรก หยกเป็นที่นิยมและมีคุณค่ามากว่า 7,000 ปี โดยเฉพาะใน จีน อเมริกากลาง และนิวซีแลนด์ ในประเทศจีนโบราณ หยกเป็นที่รู้จักในชื่อ "อัญมณีแห่งสวรรค์" ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ คุณธรรม ความบริสุทธิ์ และความเป็นอมตะ และถูกใช้ในเครื่องประดับของราชวงศ์ วัตถุพิธีการ และสิ่งของฝังศพของจักรพรรดิ ในอารยธรรมมายาและแอซเท็ก หยกถือเป็นหินศักดิ์สิทธิ์สำหรับการรักษาและปกป้อง ในขณะที่ชาวเมารี (Māori) ในนิวซีแลนด์ใช้หยก (เรียกว่า พูนามู - Pounamu) ในการทำอาวุธ เครื่องประดับ และเครื่องราง เพื่อแสดงถึงอำนาจและความแข็งแกร่ง คำว่า “jade” มาจากภาษาสเปนในศตวรรษที่ 16 จากวลี piedra de ijada (stone of the flank) เพราะเชื่อว่าความเย็นของหยกช่วยรักษาโรคไตได้ แม้ “เนไฟรต์ (nephrite)” จะเป็นที่รู้จักทั่วโลกมานาน แต่ “เจไดต์ (jadeite)” เพิ่งได้รับการจำแนกว่าเป็นแร่ชนิดแยกต่างหากในศตวรรษที่ 19
ปัจจุบัน แหล่งหยกสำคัญ ได้แก่ จีน เมียนมา (พม่า) กัวเตมาลา รัสเซีย และแคนาดา โดยเฉพาะ "หยกจักรพรรดิ" (Imperial Jade - เจไดต์คุณภาพสูงสุด) จากเมียนมา ถือเป็นหยกที่มีค่าที่สุด เนื่องจากมีสีเขียวเข้มสดโปร่งแสง
ความหมาย หยกเป็นที่รู้จักกันในฐานะ "หินแห่งความสมดุล โชคลาภ และปัญญา" เชื่อมโยงกับ Heart Chakra ช่วยส่งเสริมความสงบทางอารมณ์ ความเมตตา และความรักในตัวเอง หยกยังช่วยดึงดูดความมั่งคั่ง ความโชคดี และความสำเร็จ จึงมักถูกใช้เป็นเครื่องรางเสริมดวงด้านความเจริญรุ่งเรือง ในแง่ของอารมณ์ หยกช่วยปลอบประโลมจิตใจ ลดความเครียด และเสริมสร้างความอดทน มักใช้ในการทำสมาธิและบำบัดพลังงานเพื่อช่วยให้เกิดความสงบภายในและความชัดเจนทางความคิด หลายวัฒนธรรมยังเชื่อว่าหยกเป็นหินปกป้อง ป้องกันพลังงานลบ และช่วยให้มีอายุยืนยาว
หมายเหตุ: คุณสมบัติเหล่านี้เป็นความเชื่อในวงการคริสตัล ยังไม่มีการรับรองทางการแพทย์
วิธีทำความสะอาดและดูแล สามารถใช้น้ำอุ่นผสมน้ำสบู่อ่อน ๆ และผ้านุ่มหรือแปรงขนนุ่ม หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องทำความสะอาดด้วยไอน้ำหรืออัลตราโซนิก
การเก็บรักษา: แม้หยกจะมีความทนทาน แต่สามารถเกิดรอยขีดข่วนหรือบิ่นได้หากโดนกระแทกแรง ๆ ควรเก็บในถุงผ้านุ่มหรือกล่องแยกเพื่อป้องกันรอย
การชำระล้างพลังงาน: แนะนำเป็นแสงจันทร์ เสียง หรือชามแก้วคริสตัล นิยมวางไว้กับธาตุธรรมชาติ เช่น ดิน หรือน้ำ เพื่อฟื้นฟูพลังงาน
สรุป
หยกมีความทนทาน งดงาม และมีคุณค่าทางวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง ทำให้เป็นหนึ่งในหินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ไม่ว่าจะใส่เพื่อเสริมโชค หรือใช้เป็นของตกแต่งศิลป์ หยกยังคงเป็นสัญลักษณ์ของพลังภายในและความสงบที่เหนือกาลเวลา
References:
*ข้อมูลอาจมีการอัพเดทเพิ่มเติมในอนาคต
หยก ทั้งหมดของเรา
หยกพม่า (Burmese Jade – เจไดต์จากเมียนมา)
หยกพม่า หมายถึง เจไดต์ที่มาจากประเทศเมียนมา (พม่า) ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหยกที่มีคุณภาพดีที่สุดและมีมูลค่าสูงสุด เนื่องจากหยกเจไดต์ก่อตัวขึ้นภายใต้สภาวะ high-pressure, low-temperature ในบริเวณที่แผ่นเปลือกโลกมุดตัว (subduction zone) ซึ่งเป็นกระบวนการที่แผ่นเปลือกโลกหนึ่งถูกดันเข้าไปใต้แผ่นเปลือกโลกอีกแผ่นหนึ่ง สภาพแวดล้อมทางธรณีวิทยาที่ไม่เหมือนใครนี้ ทำให้เกิดเงื่อนไขที่เหมาะสมต่อการตกผลึกของเจไดต์ค่ะ
ทำไมเจไดต์ถึงหายากกว่าหยกเนฟไฟรต์? ในการเกิดหยกเจไดต์ต้องอาศัยเงื่อนไขในการเกิดที่จำเพาะกว่าหยกเนฟไฟรต์ (ซึ่งก่อตัวในสภาพแวดล้อมที่ใช้ความดันต่ำกว่า) นอกจากนี้ โครงสร้างผลึกของเจไดต์ที่เชื่อมประสานกันอย่างหนาแน่น ทำให้มีความเหนียวแน่นและทนทานเป็นพิเศษ จึงทำให้หยกเจไดต์เป็นหนึ่งในอัญมณีที่มีค่ามากที่สุดในโลก
Imperial Jade เป็นหยกเจไดต์ชนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยมีสีเขียวมรกตสดใส ซึ่งเกิดจากธาตุโครเมียม ทำให้มีสีสันและความโปร่งแสงที่โดดเด่น นอกจากนี้ หยกพม่ายังพบในเฉดสีอื่น ๆ เช่น ม่วงลาเวนเดอร์ เหลือง ขาว และดำ ได้อีกด้วย
รัฐคะฉิ่น (Kachin State) โดยเฉพาะเขต Hpakan เป็นแหล่งกำเนิดของเจไดต์คุณภาพสูงของโลก แหล่งแร่นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 150 ล้านปีก่อน และเป็นแหล่งที่จีนให้ความสำคัญมานานหลายศตวรรษ โดยเชื่อกันว่าหยกพม่าเป็นสัญลักษณ์ของ ความบริสุทธิ์ อายุยืน และความมั่งคั่ง
ด้วยคุณสมบัติที่แข็งแกร่งและความงามที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ หยกพม่า เป็นหนึ่งในอัญมณีที่ได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการมากที่สุดในโลกนั่นเองค่ะ
ความเชื่อส่วนบุคคล
หยก (Jade) คือ อัญมณีแห่งความอุดมสมบูรณ์ร่ำรวย นำความโชคดีมาสู่ผู้ที่เป็นเจ้าของ ดึงดูดความมั่งคั่ง เสริมความเป็นผู้นำ กล้าเผชิญหน้า เสริมเสน่ห์ความมั่นใจในเรื่องความรัก และความเย็นของหยกสามารถช่วยระงับธาตุไฟของผู้ที่มีอารมณ์รุนแรงลงได้ดีอีกด้วย
หยกสองสี "กินบ่เซี่ยง" คือ หยกที่มีสองสีในชิ้นเดียว (ประมาณว่าสีนึงกินอีกสีนึงไม่หมด จึงทำให้มีสองสีอยู่ด้วยกันในหนึ่งชิ้น) เป็นความเชื่อของคนไทยทางภาคเหนือว่า "ใครมีไว้ในครอบครองจะโชคดี" เพราะชื่อมีความหมายที่ดีว่ากินไม่มีวันหมด ไม่อดอยาก ไม่ขาดแคลน หรือมีกินมีใช้ตลอดชีวิตนั่นเอง
หยกเขียว "มั่งคั่ง ร่ำรวย สุขภาพดี แข็งแรง อายุยืน สงบสุข" หยกสีเขียวมีความหมายโดยรวมดีทั้งหมดอยู่แล้ว จึงไม่จำกัดอาชีพ หรือคนเกิดวันไหนเป็นพิเศษ เพราะหยกสีเขียวนั้นเหมาะกับทุกคน
หยกบลู / หยกบลูโอเชียน "ลดความว้าวุ่น ช่วยให้ใจเย็นลง มองเห็นและเข้าใจตัวเอง สานต่อความฝันให้เป็นจริง" จะช่วยให้พบมุมมองใหม่ที่เป็นทางของตัวเอง
หยกม่วงลาเวนเดอร์ "แก้ปัญหาได้ดีขึ้น มีความสุข มีชีวิตชีวา ฟื้นฟูจิตใจที่เจ็บปวดให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง" เหมาะกับผู้ที่เพิ่งพบเจอความผิดหวัง ไม่ว่าจะทั้งเรื่องงาน / ธุรกิจ / ความรักที่ไม่สมหวัง / เพิ่งอกหักมา
หยกดำ / หยกเทาดำ "ป้องกันสิ่งไม่ดี ไม่ให้เข้ามากระทำทั้งต่อร่างกายและจิตใจ เสริมวาสนาบารมี นำพาความร่มเย็นให้แก่ผู้สวมใส่" เหมาะกับผู้ที่ต้องเดินทางอยู่บ่อยๆ งานเสี่ยงอันตราย เช่น ว่าความ ทำคดีกู้ภัย ดับเพลิง งานสำรวจ ช่วยเหลือ-รักษาชีวิตผู้คนที่อยู่ในวิกฤต
หยกน้ำผึ้ง "เป็นที่ยอมรับ มีความกระตือรือร้น มีพลังมีชีวิตชีวา ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ได้ดี" เหมาะกับผู้ที่กำลังจะย้าย / เพิ่งย้ายถิ่นฐานใหม่ๆ ผู้ที่ต้องย้ายไปอยู่ในสังคมวัฒนธรรมใหม่ๆ จะทำให้เป็นที่ยอมรับ และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้เร็ว ไม่รู้สึกแปลกแยกและไม่รู้สึกเหงา
หยกแดง / หยกน้ำตาลอมแดง "เพิ่มพลังในการออกไปใช้ชีวิต เสริมความคิดสร้างสรรค์ ขจัดความกลัว ช่วยลดความโกรธและความเครียด" เหมาะกับผู้ที่เพิ่งจะเริ่มต้นทำธุรกิจหรือโปรเจคใหม่ๆ นอกจากนี้หยกสีแดงยังเสริมเรื่องความรักอีกด้วย
หยกขาว "จิตใจสงบ มีสมาธิ ตัดสินใจได้ดีขึ้น เปิดตาที่สามเห็นทะลุปรุโปร่ง โชคดี สุขภาพดี" เหมาะกับคนที่ทำงานที่ต้องรับแรงกดดัน / ต้องตัดสินใจอยู่บ่อยๆ หรือผู้ที่จะต้องพบเจอบุคคลภายนอกเข้ามาเจรจาค้าขายทำธุกิจด้วย