Rose Quartz

โรสควอตซ์ (Rose Quartz)

โรสควอตซ์ คือ ควอตซ์ชนิดหนึ่งที่โดดเด่นด้วยสีชมพูอ่อนซึ่งเกิดจากการมีธาตุไทเทเนียม เหล็ก หรือแมงกานีสในรูปของมลทินขนาดจิ๋ว แตกต่างจากควอตซ์ส่วนใหญ่ตรงที่โรสควอตซ์มักมีลักษณะขุ่นมากกว่าที่จะใส เนื่องจากมีเส้นใยแร่รวมตัวอยู่ภายใน ด้วยค่าความแข็งระดับ 7 ตามโมห์สเกล โรสควอตซ์จึงมีความทนทานและเป็นที่นิยมอย่างมากในเครื่องประดับ แหล่งสำคัญของโรสควอตซ์ ได้แก่ บราซิล มาดากัสการ์ แอฟริกาใต้ และสหรัฐอเมริกา โดยปกติแล้ว โรสควอตซ์มักก่อตัวเป็นมวลขนาดใหญ่แทนที่จะเป็นผลึกเดี่ยวชัดเจน อย่างไรก็ตาม มีการค้นพบโรสควอตซ์ในรูปแบบผลึกใสที่หายากในบราซิล ทั้งนี้ สีชมพูของโรสควอตซ์อาจจางลงหากสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานานได้ค่ะ

Physical Properties

• สูตรเคมี: SiO₂

• กลุ่มแร่: Silicate

• ระบบผลึก: Trigonal

• ความแข็ง: 7 

• ความถ่วงจำเพาะ: 2.65

• สี: ชมพูอ่อนถึงชมพูเข้ม

• ความโปร่งแสง: กึ่งโปร่งแสงถึงทึบแสง

• ประกาย: แก้ว

• แนวแตกเรียบ: ไม่มี

• การเกิด: 

  • การเกิดของโรสควอตซ์นั้นเกิดจากการมีธาตุเจือปน เช่น ไทเทเนียม เหล็ก หรือแมงกานีส หรือในทฤษฎีล่าสุดเชื่อว่าเกิดจากการมีเส้นใยขนาดจิ๋วของแร่ borosilicate สีชมพู (อาจคล้ายดูมอร์เทียไรต์) แทรกอยู่ภายในอย่างหนาแน่น โรสควอตซ์มักพบในหินเพกมาไทต์ซึ่งเป็นหินอัคนีที่มีเนื้อหยาบ เกิดขึ้นในช่วงท้ายของกระบวนการเย็นตัวของแมกมา โดยโรสควอตซ์มักปรากฏในลักษณะมวลทึบ (massive) ไม่ค่อยพบเป็นผลึกแยกตัวชัดเจน

  • การเกิดสตาร์โรสควอตซ์ (Star Rose Quartz) เป็นโรสควอตซ์ชนิดพิเศษที่แสดงปรากฏการณ์ทางแสงเรียกว่า “asterism” หรือการสะท้อนแสงเป็นรูปดาว โดยมักเป็นดาว 6 แฉกที่เห็นชัดเมื่อเจียระไนเป็นรูปทรงโค้งหลังเต่า (cabochon) เอฟเฟกต์รูปดาวนี้เกิดจากการมีเส้นใยของแร่รูไทล์หรือแร่เข็มชนิดอื่นๆ แทรกตัวอย่างเป็นระเบียบภายในเนื้อหิน และสะท้อนแสงในทิศทางที่กำหนดอย่างสม่ำเสมอ แม้กระบวนการเกิดจะคล้ายกับโรสควอตซ์ทั่วไป แต่สตาร์โรสควอตซ์จะต้องมีความเข้มข้นของเส้นแร่ในแนวผลึกที่เหมาะสมพอดี จึงจะเกิดแสงดาวได้ ทำให้หายากกว่านั่นเอง

ประวัติและการค้นพบครั้งแรก โรสควอตซ์ถูกใช้เป็นอัญมณีและวัสดุแกะสลักมาตั้งแต่สมัยโบราณ หลักฐานทางโบราณคดีพบว่าเริ่มใช้ในเมโสโปเตเมียและอัสซีเรียตั้งแต่ 7,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช ชาวโรมันและอียิปต์โบราณเชื่อว่าหินนี้ช่วยป้องกันความแก่และส่งเสริมความรัก ชื่อ “Rose Quartz” เริ่มถูกใช้แพร่หลายในยุโรปตั้งแต่ศตวรรษที่ 18–19 เมื่อการจัดประเภทแร่เริ่มเป็นระบบ โดยแหล่งโรสควอตซ์ที่สำคัญในปัจจุบัน ได้แก่ บราซิล (Minas Gerais) มาดากัสการ์ แอฟริกาใต้ อินเดีย ศรีลังกา และสหรัฐอเมริกา (South Dakota และ Maine)

ความหมาย โรสควอตซ์มีชื่อเสียงว่าเป็น “หินแห่งความรักที่ไม่มีเงื่อนไข” มีพลังในการเสริมพลังความรัก ความเมตตา และการให้อภัย ช่วยเยียวยาบาดแผลทางใจ และปลดปล่อยความเจ็บปวดในอดีต ส่งเสริมความรักตนเอง และความสัมพันธ์ที่ดีต่อผู้อื่น ลดความเครียด วิตกกังวล และสร้างความสงบในจิตใจ เปิดใจรับรักใหม่อย่างนุ่มนวล เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้นั่งสมาธิ วางไว้ใกล้บริเวณจักระหัวใจ หรือวางไว้ในห้องนอนเพื่อพลังแห่งความสงบและรัก

หมายเหตุ: คุณสมบัติเหล่านี้เป็นความเชื่อในวงการคริสตัลบำบัด ยังไม่มีการรับรองทางการแพทย์

วิธีทำความสะอาดและดูแล สามารถล้างด้วยน้ำสบู่อุ่นและแปรงนุ่ม หลีกเลี่ยงสารเคมีรุนแรง

• การเก็บรักษา: ควรเก็บแยกจากหินที่อ่อนกว่า เพราะอาจทำให้คนอื่นเป็นรอย ควรระวังการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิฉับพลัน และแสงแดดจัดเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้สีซีดจางลง

• การชำระล้างพลังงาน: ใช้แสงจันทร์ เซเลไนต์ หรือเสียงจากชามธิเบต/เสียงระฆัง เพื่อชำระล้างพลังงาน

สรุป

โรสควอตซ์เป็นควอตซ์สีชมพูที่ได้รับความนิยมสูงสุดในการใช้เสริมพลังด้านความรัก การให้อภัย และความสงบในใจ เป็นหินที่ใช้แพร่หลายในด้านการบำบัดจิตใจ ทั้งยังเป็นตัวแทนของความรักในทุกรูปแบบ ทั้งรักตนเอง รักผู้อื่น และการเปิดใจให้รักใหม่

References:

Wikipedia – Quartz

Mindat.org - Rose Quartz

GIA - Rose Quartz

Geology.com - Rose Quartz

กรมทรัพยากรธรณี - ควอตซ์

*ข้อมูลอาจมีการอัพเดทเพิ่มเติมในอนาคต